คลินิกกายภาพ

การรักษาโรคในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาในหลายรูปแบบ มีวิวัฒนาการและเครื่องมือที่มีความทันสมัย และสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น การทำกายภาพบำบัดก็เป็นการรักษาโรครูปแบบหนึ่งที่ได้มีการพัฒนาให้รักษาครอบคลุมโรคในปัจจุบันได้มากขึ้น ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคลินิกกายภาพนั้นมีหลายรูปแบบและสามารถรักษาโรคได้หลากหลายมากกว่าที่คิด โดยเราจะมาทำความรู้จักกับรูปแบบของคลินิกกล่าวกัน

เลือกคลินิกกายภาพที่เหมาะกับอาการป่วยของคุณ

คลินิกกายภาพเป็นคลินิกที่ให้การรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อ กระดูก รวมถึงการบำบัดความเครียด การดูแลร่างกายและสภาพจิตใจ เป็นต้นโดยจะเป็นการรักษาที่ไม่ใช้การฉีดยาหรือการผ่าตัด แต่จะมีอุปกรณ์ที่ช่วยทำกายภาพบำบัดให้กับผู้ป่วย ซึ่งวิธีการเลือกคลินิกที่เหมาะกับอาการป่วยของเรานั้นสามารถทำได้ดังนี้

  • อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มักจะสามารถพบได้ค่อนข้างเยอะ สำหรับคลินิกกายภาพที่ช่วยดูแลเกี่ยวกับอาการปวดเมื่อย ออฟฟิศซินโดรม หรือมีการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ โดยคลินิกเคสนี้จะมีการนวดและรักษาด้วยอุปกรณ์ทำกายภาพบำบัดที่แตกต่างกันไป และบางที่อาจจะมีการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาและการทำอโรม่า เพื่อให้ผ่อนคลายและสบายตัวขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีการรักษาด้วยวิธีเฉพาะทางเป็นเอกลักษณ์แต่ละคลินิก สามารถเลือกคลินิกที่มีวิธีการรักษาที่เหมาะกับตัวเองได้
  • อาการอัมพาต จะเป็นคลินิกกายภาพ ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยที่มีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือผู้ป่วยติดเตียงเป็นต้น โดยจะเน้นการใช้เครื่องมือกระตุ้นทำกายภาพบำบัดและการบริหารร่างกายด้วยท่าต่าง ๆ ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้ โดยการรักษาชนิดนี้อาจจะใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
  • ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยสูงอายุหรือโรคร้ายแรง คลินิกชนิดนี้จะเป็นลักษณะที่ดูแลผู้ป่วยทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งระยะสุดท้าย หรือเป็นผู้ป่วยทางสมอง เช่น ผู้ป่วยความจำเสื่อม โดยคลินิกกายภาพ จะดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง มีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อให้สภาพจิตใจเบิกบาน และการดูแลบริหารร่างกายรวมไปถึงการควบคุมการทานยาที่เหมาะสมในแต่ละวัน

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกกายภาพ ที่จะช่วยรักษาตนเองหรือคนที่เรารักในครอบครัว ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการรักษานั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีมาตรฐานช่วยให้สามารถหายจากโรคภัยที่เผชิญอยู่ได้ ที่สำคัญควรตรวจสอบรูปแบบคลินิกให้เหมาะกับอาการที่ต้องการจะรักษา เพราะรูปแบบของคลินิกชนิดนี้นั้น มีกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาแตกต่างกันไป จึงควรหาข้อมูลของคลินิกให้ครอบคลุมเสียก่อน

Explore More

6 วิธีเติมน้ำให้ผิวให้ดูเด้ง ใส สุขภาพดี

วิธีเติมน้ำให้ผิวให้ดูเด้ง ใส สุขภาพดี
December 1, 2022 0 Comments 1 tag

ใครๆ ก็อยากจะมีผิวที่สวย เด้ง สุขภาพดีกันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราต่างก็ต้องพบเจอกับปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื่น สามารถเกิดได้จากทั้งภายในและภายนอก อาทิ การดื่มน้ำไม่เพียงพอ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ไปจนถึงมลภาวะ และการใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์นานๆ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงปัญหาแต่งหน้าไม่ติดทน ดังนั้นวันนี้จะมาแชร์ 6 วิธีการเติมน้ำให้ผิวดูฉ่ำน้ำ สุขภาพดีกันเลย ดื่มน้ำให้เยอะ เป็นวิธีเบสิคที่ทุกคนแนะนำและทำไม่ค่อยจะได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 6-8 แก้วต่อวัน เนื่องจากในชีวิตประจำวันร่างกายนั้นสูญเสียความชุ่มชื่นไปเป็นจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นการเติมน้ำให้ผิว นอกจากจะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นแล้ว

ขั้นตอนการทำ iui

iui
April 23, 2024 0 Comments 1 tag

IUI (Intra – Uterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก โดยจะมีการคัดกรองเชื้ออสุจิที่แข็งแรงผ่านท่อพลาสติกขนาดเล็กสอดผ่านปากมดลูกแล้วฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกช่วงที่ไข่ตกหรือใกล้กับเวลาที่มีไข่ตก โดยตัวอสุจิจะว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ที่ท่อนำไข่เอง ในการทำ IUI ฝ่ายชายควรมีตัวอสุจิที่แข็งแรงหลังการผ่านการคัดกรองแล้ว 1 ล้านตัวขึ้นไป หากมีน้อยกว่านั้นโอกาสตั้งครรภ์จะน้อยลงนั่นเอง แล้วการทำ iui มีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย 1. ปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะตกลงปลงใจทำ iui คุณจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน โดยจะมีการซักประวัติและตรวจร่างกายเพิ่มเติม ตามสาเหตุภาวะมีบุตรยากของคุณ ส่วนฝ่ายชายเข้ารับการตรวจและวิเคราะห์คุณภาพอสุจิ  คุณหมอจะตรวจสอบและประเมินสภาพร่างกายโดยรวม เพื่อประเมินว่า IUI เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือไม่

เรื่องน่ารู้ของการทําเลสิค ราคาไม่แพง

December 10, 2022 0 Comments 1 tag

อาจจะกล่าวได้ว่าสิ่งที่ได้รับความสนใจในปัจจุบันมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการทําเลสิค ราคาเท่าใดก็ตาม ซึ่งการทำเลสิกนั้นก็คือการปรับค่าสายตาในวันที่ทำ ปกติแล้วธรรมชาติของมนุษย์เรานั้น จะมีสายตาที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องดูตามการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราได้ อย่างไรก็ดี โดยปกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้ทำเลสิก โดยเมื่อสายตามีค่าคงที่แล้ว ก็จะเปลี่ยนแปลงไม่เกิน 100 ในช่วงหนึ่งปี จะทำให้ลดโอกาสสายตาสั้นหรือเอียงเพิ่มในอนาคต อย่างไรก็ดี สายตาก็อาจจะกลับมาสั้นอีกได้ในระยะเวลาราวๆ 10 ปี และสายตาที่กลับมาสั้นอีกนั้นก็จะสั้นไม่มากเท่าใดนัก โดยอยู่ในช่วงสายตาไม่เกิน 150 ก็มีค่าสายตาในระดับนี้ ทำให้ไม่กระทบกับการมองเห็นมากเท่าใดนัก ทำให้มีการใส่แว่นสายตาเสริมไปอีก สำหรับคนที่ต้องการทำเลสิกซ้ำอีกครั้ง ก็ต้องประเมินความหนาของกระจก ยังเหลือความหนาพอหรือไม่ สามารถทำซ้ำได้ ก็แนะนำให้ติดต่อที่ศูนย์เลสิกเดิม จะได้มีข้อมูลกระจกตาครบนั่นเอง