หูตึง อาการที่มีสาเหตุมาจากปัจจัยที่ใกล้ตัวจึงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย บางคนอาจคิดว่าหูตึงเป็นอาการที่ไม่รุนแรงและไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากมายนัก จึงมองข้ามและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาหูเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการหูตึงไป แต่หูตึงนั้นเป็นอาการที่มีมากกว่าที่เราคิด วันนี้มาศึกษาและทำความรู้จักเกี่ยวกับหูตึงและทุกสิ่งที่เราควรรู้ก่อนที่จะสายไป
- หูตึง คืออะไร
หูตึง เป็นอาการที่สามารถส่งผลโดยตรงให้เราไม่สามารถสัมผัสและรับรู้เสียงในหูซึ่งสามารถเกิดได้กับหูข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง การสูญเสียการได้ยินนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นระดับความรุนแรงจากเล็กน้อยไปจนถึงการสูญเสียการได้ยินขั้นรุนแรง หูตึงสามารถเกิดได้จากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรม การเจ็บไข้ได้ป่วย หรือการได้ยินเสียงที่ดังมากๆ แบบฉับพลัน เป็นต้น
- หูตึง มีอาการอย่างไร
อาการของหูตึงจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปและมักจะถูกแบ่งออกด้วยระดับความรุนแรงที่ต่างกัน ในผู้ป่วยบางคนจะมีอาการหูตึงในระดับเล็กน้อยซึ่งจะส่งผลทำให้ไม่สามารถได้ยินเสียงบางเสียง ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยที่มีอาการหูตึงที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างรุนแรงก็จะไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรเลยตามธรรมชาติ อาการอื่นๆ ของหูตึง ก็จะมี การได้ยินเสียงวิ้งในหู หูอื้อ และไม่สามารถเข้าใจเสียงพูดได้
- หูตึง สามารถวินิจฉัยได้อย่างไร
หูตึงมักจะถูกวินิจฉัยผ่านการทดสอบการได้ยินที่เรียกว่า audiogram หรือ การตรวจสอบสมรรถภาพการได้ยิน ในระหว่างการทดสอบผู้เข้ารับการทดสอบจะได้ยินเสียงที่มีความถี่ต่างๆ ผ่านหูฟัง เมื่อได้ยินเสียงแล้วผู้ป่วยจะต้องบอกว่าตอนไหนที่ตัวเองสามารถได้ยินเสียงเหล่านั้นบ้าง การทดสอบการได้ยินหรือการตรวจสอบสมรรถภาพการได้ยินนั้นสามาารถบ่งบอกได้ถึงความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยินและเสียงที่มีคลื่นความถี่ในระดับไหนบ้างที่ส่งผลกระทบ
- หูตึง สามารถรักษาอย่างไรได้บ้าง
หูตึง เป็นอาการที่ไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่จะสามารถช่วยให้ผู้ที่มีอาการหูตึงสามารถกลับมาได้ยินได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องช่วยฟัง การผ่าตัดปลูกถ่ายโคเคลีย และการใช้อุปกรณ์ช่วยฟังต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการฟื้นฟูทักษะการสื่อสารอย่างการพูดที่จะช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องหรือคนหูตึงสามารถเรียนรู้เพื่อที่จะได้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
- หูตึง มีผลกระทบในระยะยาวหรือไม่
ผลกระทบในระยะยาวของอาการหูตึงนั้นมักจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความสามารถในการปรับตัวของผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือหูตึงเองด้วย บางคนที่มีอาการหูตึงที่มีระดับความรุนแรงน้อยก็จะได้รับผลกระทบหรือความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตน้อย ในขณะที่บางคนที่มีความรุนแรงมากอาจจะไม่ประสบกับปัญหาการเข้าสังคมซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้ด้วย